วันอังคารที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2551
รถเมล์พลังประชาชน
ในช่วงนี้ได้มีการเปลี่ยนแปลงบางอย่างในระบบของ ขสมก. ซึ่งเป็นนโยบายที่รัฐบาลบอกว่าทำเพื่อช่วยเหลือประชาชนคือการที่ให้ประชาชนใช้รถโดยสารประจำทางของขสมก. โดยไม่เสียค่าโดยสาร ซึ่งตัวผมเองก็ได้ใช้บริการแล้ว โดยส่วนตัวรู้สึกถึงการแสดงออกของพนักงานเก็บค่าโดยสารที่ต่างไปจากเดิม โดยจะออกคำสั่งกับผู้โดยสารมากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งอาจจะเป็นเพราะสถานการณ์เช่นนี้ที่จำนวนผู้โดยสารมีจำนวนมากขึ้นจึงต้องมีการจัดการพื้นที่เพื่อให้ผู้โดยสารสามารถใช้บริการได้อย่างพอเพียง อย่างไรก็ตามในส่วนของเรื่องการบริการนั้นเป็นเรื่องรายละเอียดเล็กน้อยของการใช้รถประจำทางของผมแต่เรื่องที่ผมเห็นแล้วรู้สึกถึงความผิดปกติอย่างชัดเจน ก็คือ ป้ายประกาศที่ติดอยู่ที่ด้านนอกของตัวรถ ซึ่งผมในฐานะที่เป็น นักศึกษาวิชาการออกแบบการสื่อสารนั้น รู้สึกถึงการที่มีการนำเอาเครื่องมือทางการสื่อสารมาใช้แฝงเพื่อประโยชน์ของตัวเอง ได้อย่างแนบเนียนและเป็นธรรมชาติ โดยประชาชนที่ไม่ทันได้สังเกตก็จะได้รับสารนั้นเข้าไปโดยไม่ได้พิจารณา และก็เข้าใจว่ารัฐบาลกำลังช่วยเหลือประชาชน แต่แท้ที่จริงแล้วมันมีการแฝงไปด้วยการโฆษณาหาเสียงของรัฐบาล โดยใช้นโยบายนี้เพื่อที่จะได้นำเงินภาษีของประชาชนมาใช้หาเสียงให้กับตนเองได้อย่างแนบเนียนและดูเป็นประโยชน์กับประชาชนโดยส่วนรวม
วันอังคารที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2551
Red Cherry Shrimp
ตอนนี้ผมมีงานอดิเรกใหม่อย่างหนึ่งที่รู้สึกชอบมากเป็นพิเศษ คือการเลี้ยงกุ้ง กุ้งที่เลี้ยงนั้นมีชื่อว่า " กุ้งเชอรี่ "
ซึ่งเป็นกุ้งแคระที่มีลำตัวเป็นสีแดง ขนาดของลำตัวตอนโตเต็มที่จะอยู่ที่ประมาณ 2.5 เซนติเมตร โดยผมไปพบ
กับเจ้ากุ้งนี่ครั้งแรกที่ตลาดนัดซันเดย์แล้วก็ถูกใจในขนาดและสีสันของเจ้ากุ้งชนิดนี้ จึงได้เริิ่มซื้ออุปกรณ์ที่จำเป็น
ในการเลี้ยงมาทีละอย่าง โดยทีแรกคิดว่าค่าใช้จ่ายไม่น่าจะแพงนัก แต่เอาเข้าจริงๆแล้วก็หมดเงินไปเยอะพอสมควร
โดยจะต้องซื้อตู้และเลี้ยงไม้น้ำเพื่อให้เป็นที่อยู่อาศัยและคลายเครียดให้กับเจ้ากุ้งชนิดนี้ ผมได้ซื้อมอสน้ำมาใส่ไว้ในตู้
เพราะว่าคนขายบอกว่ามอสจะเลี้ยงง่ายกว่า เพราะไม่ต้องดูและมากแต่ราคาจะสูงกว่าไม้น้ำมาก ซึ่งก็ทำผมหมดเงิน
ไปกับมอสอยู่พอสมควร และต้องซื้อเครื่องกรองน้ำ ดินสำหรับเลี้ยงมอสและไฟเพื่อให้มอสได้สังเคราะห์แสง เมื่อ
ได้อุปกรณ์ทุกอย่างมาครบแล้วก็ได้น้ำเจ้ากุ้งมาปล่อยลงไปในตู้หนึ่งคู่ ซึ่งปรากกฏว่ามันโดนเครื่องกรองน้ำดูดเข้า
ไปตายทั้งคู่ ผมจึงต้องมาปรับแต่งส่วนหัวของเครื่องกรองน้ำใหม่ แล้วก็นำกุ้งมาปล่อยเป็นครั้งที่สอง จำนวน 6 ตัว
และตอนนี้มันก็เริ่มมีเจ้ากุ้งน้อยๆออกมาให้ผมได้เห็นแล้ว
เว็บไซต์ประวัติและวิธีการเลี้ยงกุ้งเชอรี่ http://www.kapank.com/pets/contents/shrimp/cherry/cherry.html
วันพฤหัสบดีที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2551
วันพุธที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2551
รายนามหนังสือและหนัง ของวันที่ 16 ก.ค. 51
Movie
1.Jerry Maguire
2.Bicentennial man
3.Memento : ภาพหลอน ซ่อนรอยมรณะ
4.Borat
5.Crash : คนผวา
6.ไอ้ฟัก
ฺBook
1. อ่านไม่เอาเรื่อง : ชูศักดิ์ ภัทรกุลวณิชย์
2.มายาคติ : โรล็อง บาร์ตส์
3.ภาพถ่ายและสิ่งพิมพ์ : เอนก นาวิกมูล
" โครงการออกแบบการสื่อสารเพื่อนำเสนอผลกระทบของการสร้างอัตลักษณ์ของนักออกแบบที่ส่งผลต่อสภาวะโลกร้อน "
จากครั้งที่แล้วที่คิดจะนำตั้งโปรเจคทำแคมเปญเพื่อรณรงค์ต่อต้านการบริโภคนิยม
แต่ปรากฏว่าผิดกติกาที่ตั้งไว้ตั้งแต่แรกของชั้นเรียนนี้ เลยต้องกลับมาทบทวนกับ
ข้อมูลที่ได้วิเคราะห์มาตั้งแต่แรกว่าการที่ แบรนด์ใช้ CI เพื่อสร้างการจดจำให้ผู้บริโภค
ให้มีการบริโภคสินค้ามากขึ้น แต่ขณะที่ ADBUSTERS ที่เป็นฝ่ายที่รณรงค์ต่อต้าน
ก็ยังต้องใช้การสร้าง CI เพื่อให้เป็นที่จดจำของผู้คน
จึงมีความคิดว่า เมื่อ CI มีพลังมากในการที่จะสร้างการจดจำให้กับผู้คน ผมเองจะ
สามารถนำ IC มาใช้ประโยชน์ได้อย่างไร จึงได้ลองคิดความเป็นไปได้จากการใช้
CI เพื่อสร้างโครงการออกแบบให้กับตนเอง
โครงการที่ 1 : โครงการออกแบบอัตลักษณ์ให้กับตนเอง
โครการที่ 2 : โครงการออกแบบอัตลักษณ์ให้กับองค์กรที่ให้ข้อมูลปัญหาโลกร้อน
ทั้งสองโครงการเป็นตัวอย่างที่คิดขึ้นมาแล้วนำไปเสนออาจารย์ในชั้นเรียน
แต่กลายเป็นต้องถอยกลับไปพูดถึงจุดที่เลยมาแล้ว อย่างประเด็นการสร้าง CI
ของนักออกแบบที่สร้างผลกระทบต่อสภาวะโลกร้อน จึงได้ตั้งโครงการออกแบบ
จากจุดนี้ขึ้นมาโดยเป็นโปรเจคของการวิพากย์การออกแบบที่มีชื่อโครงการว่า
" โครงการออกแบบการสื่อสารเพื่อนำเสนอผลกระทบของการ
สร้างอัตลักษณ์ของนักออกแบบที่ส่งผลต่อสภาวะโลกร้อน "
วันอังคารที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2551
Consumerism : บริโภคนิยม
หลังจากการตั้งสมมุติฐานว่า
Advertising + Brand = Consumerism
ทำให้คิดที่จะทำการออกแบบโดยใช้การสร้างแบรนด์ ขึ้นมาเพื่อต่อต้านกระแสบริโภคนิยม
และ ได้พบข้อมูลขององค์กรที่มีลักษณะดังกล่าวที่มีชื่อว่า " ADBUSTERS "
ADBUSTERS
เกิดจากการที่คนทำสื่อถูกปิดกั้นการนำเสนอข้อมูลที่มีอยู่ในสหรัฐอเมริกา เนื่องจากสื่อที่ต้องการ
จะนำเสนอนั้นขัดผลประโยชน์กัน จึงได้คิดที่จะนำเสนอข้อมูลที่มีอยู่ผ่านสื่อของตนเองเพื่อต่อต้าน
กระแสการบริโภคที่เกิดขึ้นจากประเทศสหรัฐอเมริกา
ภาพธงของอเมริกาที่่ถูกนำมาล้อเลียนถึงความเป็นผู้สร้างแบรนด์ต่างๆมากมาย
ที่ทำให้เกิดการบริโภคนิยมขึ้นทั่วโลก
Advertising ของ ADBUSTERS ที่ทำล้อเลียน Brand ต่างๆ
จากการวิเคราะห์การมีอยู่ของ ADBUSTERS นั้น ผมคิดว่าเป็นการดีที่มีองค์กรใน
ลักษณะนี้ก่อตัวขึ้นมา เพราะจะทำให้ผู้บริโภคได้รับข้อมูลในอีกด้านหนึ่งนอกเหนือ
จากโฆษณาขายสินค้าจากแบรนด์ต่างๆ เพื่อที่จะได้รู้เท่าทันกลยุทธต่างๆที่จะ
หลอกลวงให้เกิดการบริโภคอย่างไม่จำเป็น
"Running the numbers : An American self-Portrait"
เป็นนิทรรศการรูปถ่ายของคริส จอร์แดน ที่จัดแสดงที่แกลลอรี่ Von lintel ในนิวยอร์ค
กลางปี ค.ศ.2007งานของเขาพูดถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นจาการบริโภคนิยมอย่าง
ล้นเกินของสังคมปัจจุบัน ผ่านภาพถ่ายระยะไกลแล้วค่อยๆปรับระยะให้เห็นว่าเป็นภาพของ
วัตถุอะไรที่กองกันอยู่อย่างมากมาย ซึ่งวัตถุเหล่านั้นเกิดจากการที่คนบริโภคสินค้า แล้วทำ
ให้เกิดขยะที่มีจำนวนมากอย่างน่าตกใจ และมีรายละเอียดแสดงอยู่ด้านล่างว่าเกิดจากการ
บริโภคของคนในระยะเวลาเท่าไหร่จึงทำให้เกิดขยะกองโตขนาดนี้
ภาพตัวอย่างงานบางส่วน ดูเพิ่่มเติมได้ที่ http://www.chrisjordan.com/current_set2.php
ถุงพลาสติก 60,000 ใบที่ถูกใช้ในทุกๆ 5 วินาที (อเมริกา)
โทรศัพท์มือถือ 426,000 เครื่อง ที่ถูกโล๊ะทิ้งต่อวัน (อเมริกา)
จากข้อมูลที่มีอยู่ จึงคิดว่าบริโภคนิยมเป็นสาเหตุใหญ่สาเหตุนึงที่ส่งผลต่อสภาวะโลกร้อน
ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันจึงคิดที่จะ ทำการออกแบบเพื่อรณรงค์ ให้คนลดพฤติกรรมบริโภคนิยม
โดยจะสร้างแคมเปญขึ้นมาเพื่อใช้ในการสื่อสารกับผู้บริโภค
วันอาทิตย์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2551
ปัญหาโลกร้อนและทฤษฎีความอลวน
เริ่มต้นจากหนังสารคดีที่ได้ดูในห้องเรียน ที่พูดถึง 7 เหตุการณ์ที่จะทำให้เกิดวันสิ้นโลก ผมได้
ลองแยกโครงสร้างของสารคดีเรื่องนี้ออกมา เพื่อหาองค์ประกอบและหาจุดที่น่าสนใจที่จะนำเสนอ
โดยเหตุการณ์ที่พูดถึงในสารคดีทั้ง 7 จะเรียงตามลำดับจาก 1 - 7 (ในสารคดีจะเรียงจาก 7 -1 )
1.ปัญหาโลกร้อน
2.โรคระบาด
3.สงครามนิวเครียร์
4.อุกาบาตชนโลก
5.ภูเขาไฟระเบิด
6.คอมพิวเตอร์ครองโลก
7.การเกิด BIGBANG (เกิดรังสี gamma ray และ black hole )
ซึ่งผมได้แยกเหตุการณ์ออกมาเป็นหัวข้อต่างๆ ได้แก่
ภัยธรรมชาติ 3 : ภัยจากมนุษย์ 4
เกิดขึ้นในอนาคต 3 : เกิดขึ้นอยู่ในปัจจุบัน 4
เกิดขึ้นภายในโลก 5 : เกิดจากภายนอก (จักรวาล) 2
ยังมีสิ่งมีชีวิต 6 : ไม่มีสิ่งมีชีวิต 1
เมื่อแยกองค์ประกอบของเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นแล้ว ทำให้ผมได้ข้อสรุปว่า
" การที่จะเกิดเหตุการณ์วันสิ้นโลกนั้นมันมีสาเหตุมาจากมนุษย์เป้นส่วนใหญ่ "
และสาเหตุที่มาเป้นอันดับที่ 1 ก็น่าจะเป้นเรื่องที่สารคดีต้องการจะสื่อสารมากที่สุด
ก็คือเรื่อง " โลกร้อน "
ปัญหาโลกร้อนในทุกวันนี้ก็เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่ามีสาเหตุหลักมาจากมนุษย์ ซึ่งผมได้
ตั้งข้อสังเกตสาเหตุเกิดขึ้นเพราะการที่มนุษย์ทำกิจกรรมพร้อมๆกัน ทำให้มีผลกระทบ
ที่ทำให้โลกร้อนขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับทฤษฎีความอลวน ( Chaos theory ) ซึ่งพูดถึงระบบ
ที่ส่งผลกระทบซึ่งกันและกันและเกิด ทำให้เกิดความร้อนจากภายใน
พฤติกรรมการบริโภคนิยมของมนุษย์ส่งผลต่อการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างสิ้นเปลือง
โดย กลุ่มนักบริโภคนิยมจะถูกกระตุ้นการบริโภคที่ไม่จำเป็นด้วยการ ส่งเสริมผลิตภัณฑ์ในด้าน
การโฆษณา และการยึดติดกับแบรนด์ของสินค้า ซึ่งในฐานะนักออกแบบแล้วการสร้างแบรนด์
ก็เป็นสิ่งที่ตรงกับสายอาชีพ และก็อาจเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดระบบการบริโภคนิยมขึ้นมา
ซึ่งส่งผลกระทบอันใหญ่หลวงต่อโลก ที่กำลังเกิดปัญหาในทุกวันนี้
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)